ต้นเหตุมันมาจากการไปยืดผมที่ใช้น้ำยายืดคุณภาพไม่ดี ที่เป็นผลพวงของความงก เลยได้ผมเป็นแบบไม้กวาดมาเยี่ยงนี้ เลยต้องตัดผมให้สั้นลง และรอคอยว่าเมื่อไหร่มันจะยาวซักที ใช้แชมพูและครีมนวดสารพัดก็แล้ว นับวันรอก็แล้ว มันก็ยังไม่ยาวทันใจ สงสัยจะไม่ได้การซะแล้ว ลองมาดูฝรั่งบ้างสิว่า เขาใช้อะไรกันบ้าง เห็นแต่ละตัวแล้ว เอ่อ ลมจะจับค่ะ ยัมมี่สุดชีวิต ทั้ง มายองเนส น้ำส้มสายชู ไข่แดง น้ำมันมะกอก สงสัยหัวจะกลายเป็นสลัดครีมข้นแน่ๆ แต่ไปเจออยู่เวบหนึ่ง สูตรดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมาเลยทีเดียว เลยจับมาทำครีมนวด สูตร SA-SA treatment มันซะเลย มาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง
1. ชาเขียวแบบชง ที่เป็น ซอง เอามาชงกับน้ำ1 แก้ว ถ้ามีเป็นแบบซองใหญ่เอามาประมาณ 1 ช้อน แล้วชงกับน้ำร้อน 1 แก้วค่ะ
2. Emulsifying wax 1 ช้อนโต๊ะ ตัวนี้เป็นตัวหลักเลยค่ะสำหรับทำครีมหรือโลชั่น
3. น้ำมันพืชที่ไว้ทำกับข้าวค่ะ 2 ช้อนโต๊ะ อันนี้ประหยัดนะคะ แต่ใครมีน้ำมันมะพร้าวก็ใช้ได้ค่ะหรือใช้เบบี้ออยล์ก็ได้ค่ะ
4. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ ถ้าไม่มีเอากลิ่นที่ใส่ขนมอบก็ได้ค่ะ มีกลิ่นชาเขียวด้วยนะคะ ขวดสิบกว่าบาทเอง แต่อย่าใส่เยอะนะคะซัก10หยดพอเดี๋ยวครีมนวดจะไม่ข้น
5. วิตามินอี เอาแบบที่กินก็ได้ค่ะเอามาซัก 2 แคปซูล
ให้เอาส่วนที่เป็นน้ำมัน 2+3 หลอมให้ละลาย แล้ว เทลงไปในชาเขียวที่ยังร้อนอยู่ ควรจะต้องร้อนนะคะ เพราะถ้าเอาไขมันที่ร้อนมาลงน้ำเย็นกว่า ไขมัน จะสะดุ้งแล้วแยกตัวไม่เกิดครีมค่ะ จากนั้นก็คนไปเรื่อยๆจนเป็นครีมข้น พอเริ่มอุ่นใส่กลิ่นและวิตามินอี เก็บใส่กระปุก ก็จะได้ครีมบำรุงผมราคาประหยัดและสร้างสรรค์จากธรรมชาติค่ะ เหตุผลที่เลือกชาเขียวเพราะเป็นตัวหนึ่งที่ช่วยให้ผมยาวไวและมีสารanti-oxidant ช่วยป้องกันผมจากมลภาวะด้วยค่ะ ส่วนพวกน้ำมันจะทำให้ผมนุ่มขึ้น ไม่มีสารอะไรเยอะแยะจนน่าปวดหัวเหมือนข้างขวดครีมนวดยี่ห้อดัง(ไม่รู้เขากลัวเราจะcopy สูตรหรือไงนะ ใส่มันไปร่วมร้อยตัว ประมาณว่ามันต้องมีซักตัวที่ออกฤทธิ์ 555) ขอให้มีความสุขกับการทำทรีตเม้นต์บำรุงผมนะคะ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น